Powered By Blogger

Thursday, August 7, 2014

จักรยานประเภทต่างๆ

1.เสือภูเขา(MTB...mountain bike)

  เป็นจักรยานที่ออกแบบสำหรับขี่ขึ้นลงเขาโดยเฉพาะ มีโครงสร้างแข็งแรง ยางล้อใหญ่หรืออ้วน ดอกยางใหญ่และหนา ทำให้เกาะพื้นถนนได้ดีเวลาขี่ขึ้นเนินชัน ๆ ใช้งานได้ในทุกพื้นผิวถนน บางครั้งเรียกจักรยาน ATB (All-Terrain Bike) ระบบเกียร์มีให้เลือกตั้งแต่ 10 ถึง 24 เกียร์ จักรยานเสือภูเขา นอกจากจะใช้งานขี่สมบุกสมบัน ตามที่ออกแบบมาแล้ว ยังใช้เป็นจักรยานท่องเที่ยว หรือแม้แต่ใช้เป็นจักรยานอเนกประสงค์ได้ด้วย

2.เสือหมอบ(RB...road bike)

 เสือหมอบเป็นจักรยานยอดนิยมสำหรับคนที่ชอบความเร็ว ลักษณะแฮนด์จะโค้งลงด้านล่าง (drop handlebar) เวลาปั่นจะต้องก้มตัวลงเพื่อให้ลู่ลม สามารถปั่นทำความเร็วสูงได้ดีบางครั้งถูกเรียกว่า racing bike ล้อของจักรยานเสือหมอบจะมีขนาดใหญ่และมีหน้ายางที่แคบเพื่อลดแรงเสียดทาน ช่วยให้สามารถปั่นได้เร็วยิ่งขึ้น จักรยานชนิดนี้เหมาะสำหรับปั่นทางเรียบ

3.รถพับ(folding bike)มินิ(mini bike) และจักรยานเด็ก(kids bike)


จักรยานพับได้ ชื่อก็บอกแล้วครับว่ามัน “พับได้” ออกแบบมาเพื่อให้สามารถเก็บหรือเคลื่อนย้ายได้ง่าย  ประหยัดพื้นที่ สามารถนำไปเก็บในตึก ที่ทำงาน หรือนำขึ้นระบบขนส่งสาธารณะไปกับเราได้ สามารถพับเก็บได้รวดเร็ว โดยมากมีล้อขนาดเล็กประมาณ 20 นิ้ว มีบางรุ่นใช้ล้อขนาด 26 นิ้ว แต่ไม่ได้รับความนิยมมากนักเนื่องจากไม่ได้ประโยชน์จากการพับเพราะยังเปลือง พื้นที่เก็บอยู่ดี

4.ไฮบริด(hybrid)

 จักรยานไฮบริดถือได้ว่าเป็นลูกผสมระหว่างจักรยานเสือหมอบและเสือภูเขา เพื่อตอบสนองการปั่นในหลายวัตถุประสงค์และใช้งานง่าย (general-purpose and user-friendly bicycle) ความมั่นคงและความสะดวกสบายของจักรยานชนิดนี้ทำให้ได้รับความนิยมในหมู่นัก ปั่นหน้าใหม่และนักปั่นเดินทางในเมือง จักรยานชนิดนี้มักจะใช้แฮนด์ตรง (flat handlebar) ประกอบกับระบบเบรคและเกียร์ของเสือภูเขา นอกจากนี้ยังสามารถติดอุปกรณ์เสริมอย่างที่มักจะพบในจักรยานทัวว์ริ่ง เช่น ช่องติดอุปกรณ์บรรทุกของหน้า-หลัง ขนาดความกว้างของหน้ายางจะอยู่ระหว่างความกว้างของจักรยานเสือหมอบและเสือ ภูเขา สำหรับเฟรมของไฮบริดอาจมีลักษณะคล้ายกับของเสือหมอบหรือเสือภูเขาก็ได้

5.ทัวร์ริ่ง(touring)

 จักรยานทัวว์ริ่งคือจักรยานที่ออกแบบหรือดัดแปลงเพื่อให้เหมาะกับการปั่น เพื่อท่องเที่ยว คุณลักษณะของจักรยานชนิดนี้คือ มีความแข็งแรง ปั่นสบาย สามารถบรรทุกน้ำหนักได้มาก นอกจากนี้อาจเสริมด้วยการใช้ยางที่มีหน้ากว้างมากกว่าจักรยานเสือหมอบ

6.ฟิกซ์เกียร์(fixed gear)

 ฟิคเกียร์เป็นจักรยานที่ไม่สามารถปั่นล้อฟรีได้ กล่าวคือจักรยานทั่วไปผู้ปั่นจะสามารถพักขาและปล่อยให้รถไหลไปตามแรงเฉื่อย ได้แต่จักรยานฟิคเกียร์ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ กลไกการปั่นของจักรยานชนิดนี้จะยึดก้านปั่นกับล้อหลังไว้ด้วยกันทำให้ผู้ขี่ จักรยานไม่สามารถที่จะหยุดปั่นได้ จักรยานชนิดนี้โดยมากจะติดตั้งเฉพาะเบรคหน้า หรือไม่ติดตั้งระบบเบรคเลย ในทางตรงข้ามจะใช้การปั่นเพื่อชะลอความเร็วรถ จุดเด่นของจักรยานชนิดนี้ที่จักรยานชนิดอื่น ๆ ไม่มีคือ จักรยานชนิดนี้สามารถปั่นถอยหลังได้

7.วินเทจ(vintage)

  ชนิดนี้จะเป็นการรวมเอา อุปกรณ์และชิ้นส่วนที่มีความคลาสสิกมาประกอบรวมเป็นจักรยานคันนึง
เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการเก็บสะสม และหลงไหลในความคลาสสิก

8.time trial

   จักรยานสำหรับทำเวลาการออกแบบจะคล้ายกับเสือหมอบแต่จะแตกต่างกันที่การออกแบบเฟรม
โดยออกแบบให้มีแรงเสียดทานกับอากาศให้น้อยที่สุด(aero dynamic) ล้อหลังจะออกแบบให้ขยับเข้ามาในเฟรม
แฮนด์จะมีแอโร่บาร์(aero bar) สำหรับการหมอบให้คนโดนลมน้อยที่สุด
Cr.Bmaj7:kan, ชมรมจักรยานไทย,pantip

No comments:

Post a Comment