1.เสือภูเขา(MTB...mountain bike)
 
เป็นจักรยานที่ออกแบบสำหรับขี่ขึ้นลงเขาโดยเฉพาะ มีโครงสร้างแข็งแรง 
ยางล้อใหญ่หรืออ้วน ดอกยางใหญ่และหนา ทำให้เกาะพื้นถนนได้ดีเวลาขี่ขึ้นเนินชัน ๆ 
ใช้งานได้ในทุกพื้นผิวถนน บางครั้งเรียกจักรยาน ATB (All-Terrain Bike) 
ระบบเกียร์มีให้เลือกตั้งแต่ 10 ถึง 24 เกียร์ จักรยานเสือภูเขา 
นอกจากจะใช้งานขี่สมบุกสมบัน ตามที่ออกแบบมาแล้ว ยังใช้เป็นจักรยานท่องเที่ยว 
หรือแม้แต่ใช้เป็นจักรยานอเนกประสงค์ได้ด้วย 
2.เสือหมอบ(RB...road bike)
 เสือหมอบเป็นจักรยานยอดนิยมสำหรับคนที่ชอบความเร็ว 
ลักษณะแฮนด์จะโค้งลงด้านล่าง (drop handlebar) 
เวลาปั่นจะต้องก้มตัวลงเพื่อให้ลู่ลม 
สามารถปั่นทำความเร็วสูงได้ดีบางครั้งถูกเรียกว่า racing bike 
ล้อของจักรยานเสือหมอบจะมีขนาดใหญ่และมีหน้ายางที่แคบเพื่อลดแรงเสียดทาน
ช่วยให้สามารถปั่นได้เร็วยิ่งขึ้น จักรยานชนิดนี้เหมาะสำหรับปั่นทางเรียบ 
3.รถพับ(folding bike)มินิ(mini bike) และจักรยานเด็ก(kids bike)
จักรยานพับได้ ชื่อก็บอกแล้วครับว่ามัน “พับได้” 
ออกแบบมาเพื่อให้สามารถเก็บหรือเคลื่อนย้ายได้ง่าย  ประหยัดพื้นที่ 
สามารถนำไปเก็บในตึก ที่ทำงาน หรือนำขึ้นระบบขนส่งสาธารณะไปกับเราได้ 
สามารถพับเก็บได้รวดเร็ว โดยมากมีล้อขนาดเล็กประมาณ 20 นิ้ว 
มีบางรุ่นใช้ล้อขนาด 26 นิ้ว 
แต่ไม่ได้รับความนิยมมากนักเนื่องจากไม่ได้ประโยชน์จากการพับเพราะยังเปลือง
พื้นที่เก็บอยู่ดี 
4.ไฮบริด(hybrid)
 จักรยานไฮบริดถือได้ว่าเป็นลูกผสมระหว่างจักรยานเสือหมอบและเสือภูเขา 
เพื่อตอบสนองการปั่นในหลายวัตถุประสงค์และใช้งานง่าย (general-purpose and 
user-friendly bicycle) 
ความมั่นคงและความสะดวกสบายของจักรยานชนิดนี้ทำให้ได้รับความนิยมในหมู่นัก
ปั่นหน้าใหม่และนักปั่นเดินทางในเมือง จักรยานชนิดนี้มักจะใช้แฮนด์ตรง 
(flat handlebar) ประกอบกับระบบเบรคและเกียร์ของเสือภูเขา 
นอกจากนี้ยังสามารถติดอุปกรณ์เสริมอย่างที่มักจะพบในจักรยานทัวว์ริ่ง เช่น 
ช่องติดอุปกรณ์บรรทุกของหน้า-หลัง 
ขนาดความกว้างของหน้ายางจะอยู่ระหว่างความกว้างของจักรยานเสือหมอบและเสือ
ภูเขา 
สำหรับเฟรมของไฮบริดอาจมีลักษณะคล้ายกับของเสือหมอบหรือเสือภูเขาก็ได้ 
5.ทัวร์ริ่ง(touring)
 จักรยานทัวว์ริ่งคือจักรยานที่ออกแบบหรือดัดแปลงเพื่อให้เหมาะกับการปั่น
เพื่อท่องเที่ยว คุณลักษณะของจักรยานชนิดนี้คือ มีความแข็งแรง ปั่นสบาย 
สามารถบรรทุกน้ำหนักได้มาก 
นอกจากนี้อาจเสริมด้วยการใช้ยางที่มีหน้ากว้างมากกว่าจักรยานเสือหมอบ 
6.ฟิกซ์เกียร์(fixed gear)
 ฟิคเกียร์เป็นจักรยานที่ไม่สามารถปั่นล้อฟรีได้ 
กล่าวคือจักรยานทั่วไปผู้ปั่นจะสามารถพักขาและปล่อยให้รถไหลไปตามแรงเฉื่อย
ได้แต่จักรยานฟิคเกียร์ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ 
กลไกการปั่นของจักรยานชนิดนี้จะยึดก้านปั่นกับล้อหลังไว้ด้วยกันทำให้ผู้ขี่
จักรยานไม่สามารถที่จะหยุดปั่นได้ 
จักรยานชนิดนี้โดยมากจะติดตั้งเฉพาะเบรคหน้า หรือไม่ติดตั้งระบบเบรคเลย 
ในทางตรงข้ามจะใช้การปั่นเพื่อชะลอความเร็วรถ 
จุดเด่นของจักรยานชนิดนี้ที่จักรยานชนิดอื่น ๆ ไม่มีคือ 
จักรยานชนิดนี้สามารถปั่นถอยหลังได้ 
7.วินเทจ(vintage)
  ชนิดนี้จะเป็นการรวมเอา อุปกรณ์และชิ้นส่วนที่มีความคลาสสิกมาประกอบรวมเป็นจักรยานคันนึง 
เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการเก็บสะสม และหลงไหลในความคลาสสิก
8.time trial
   จักรยานสำหรับทำเวลาการออกแบบจะคล้ายกับเสือหมอบแต่จะแตกต่างกันที่การออกแบบเฟรม
โดยออกแบบให้มีแรงเสียดทานกับอากาศให้น้อยที่สุด(aero dynamic) ล้อหลังจะออกแบบให้ขยับเข้ามาในเฟรม 
แฮนด์จะมีแอโร่บาร์(aero bar) สำหรับการหมอบให้คนโดนลมน้อยที่สุด 
Cr.Bmaj7:kan, ชมรมจักรยานไทย,pantip









No comments:
Post a Comment